การถ่ายรูปในสตูดิโอสิ่งสำคัญคือการจัดไฟ เราจะเห็นได้ว่ามันมีหลากหลายรูปแบบโดยไฟแบบต่างๆ จะส่งผลต่อความสวยงามรวมถึงอารมณ์ของภาพด้วยนั่นเอง โดยสิ่งที่วันนี้เราจะมานำเสนอกันนั้นเรียกได้ว่าเป็น พื้นฐานของการจัดไฟซึ่งหลักๆ เรามาเสนอกันใน 5 รูปแบบนั่นเอง
Flat

Flat
ไฟแบบ แฟลต (ไม่ใช่แฟลชนะครับ) เป็นการยิงไฟอัดเข้าไปตรงๆ ลักษณะของไฟแบบนี้คือจะมีความแบนตามชื่อ ทำให้เราเห็นหน้าของตัวแบบที่จริงที่สุดเพราะการจัดไฟในรูปแบบอื่นๆ จะช่วยเสริมจุดเด่นบนใบหน้าของแบบมากกว่าไฟแบบนี้
Butterfly

Butterfly
บัตเตอร์ฟลาย เป็นรูปแบบไฟที่นิยมใช้ในภาพยนตร์ โดยเฉพาะค่ายหนังพาราเมานท์จนคนนิยมเรียกรูปแบบไฟนี้อีกอย่างว่า พาราเมานท์ (Paramount) ไฟจะอยู่เหนือแบบแล้วกดลงมาจนได้เงาใต้จมูกที่คล้ายกับผีเสื้อ
Rembrandt

Rembrandt
เรมแบรนดท์ มีลักษณะเด่นคือเงาสามเหลี่ยมใต้ตา หรือที่ติดกับจมูกอีกฝั่งนึงของใบหน้าคล้ายกับแสงแดดจากหน้าต่าง โดยจิตรกรที่ชื่อว่า เรมแบรนดท์ เป็นผู้ที่นิยมใช้ในงานภาพของเขา การจัดไฟแบบนี้จึงเรียกตามเขานั่นเอง รูปแบบของแสงนี้ทำให้ภาพมีอารมณ์มากขึ้น มีความดรามาติกสูง
Split

Split
แสงนี้แบ่งครึ่งด้านซ้ายขวาของใบหน้าให้มีด้านสว่าง และมืดอย่างชัดเจน ไฟจะอยู่ด้านข้างของแบบเลย ทำให้อิมแพ็คต์ของภาพสูงตามความแรงของแสง หากแสงแข็งมันก็จะไล่โทนสว่างไปมืดน้อย หากเป็นแสงนุ่มก็จะไล่เยอะนุ่มนวลกว่า และที่สำคัญคือรูปแบบนี้เหมาะกับการสร้างความลึกลับให้กับภาพ รวมถึงพวกภาพถ่ายนักกีฬาที่จะเสริมความเท่ห์
Loop

Loop
แสงนี้เราเห็นบ่อยตามภาพโฆษณาต่างๆ เพราะเป็นแสงที่ค่อนข้างเคลียร์แต่ยังมีลูกเล่นอย่างเงาเล็กน้อยอยู่ ทำให้ภาพดูมีน้ำหนัก และโทนมากกว่าภาพที่เคลียร์ใส ไฟจะตั้งคล้ายกับตัว Butterfly แต่บิดข้างให้เกิดเงาที่คางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง